ผาสุก พงษ์ไพจิตร และ สังศิต พิริยะรังสรรค์
Corruption and Democracy in Thailand
(คอร์รัปชั่นกับประชาธิปไตยไทย)
Chiang Mai / Silkworm Books / 1994
Ruth McVey, editor
Money and Power in Provincial Thailand
(เงินและอำนาจในภูมิภาคท้องถิ่นของไทย)
Honolulu / University of Hawaii Press / 2000
บทความชิ้นนี้เป็นการวิจารณ์หนังสือสองเล่ม ซึ่งอธิบายและวิเคราะห์สามปรากฏการณ์ทางสังคมในประเทศไทยที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่นานมานี้ นั่นคือ การเกิดขึ้นของกลุ่มอันธพาลท้องถิ่นที่เรียกกันว่า เจ้าพ่อ การเติบโตของนายทุนและชนชั้นกลางท้องถิ่นที่เข้ามามีบทบาททางการเมือง และระดับของการคอร์รัปชั่นที่เพิ่มขึ้น หนังสือ คอร์รัปชั่นกับประชาธิปไตยไทย ให้ความสนใจด้านเลวร้ายที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นไทย เช่น การคอร์รัปชั่น ฆาตกรรมและการใช้ความรุนแรง ซึ่งผู้เขียนทั้งสองเห็นว่าเป็นผลมาจากการส่งเสริมการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง ส่วนหนังสือ Money and Power in Provincial Thailand สำรวจว่า การครอบงำทางการเมืองและเศรษฐกิจแบบใหม่ มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกรุงเทพฯ กับท้องถิ่นในวิถีทางอย่างไรบ้าง เมื่อนำมาพิจารณาร่วมกัน หนังสือสองเล่มนี้ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ท้องถิ่นได้เข้ามามีอิทธิพลต่อความเปลี่ยนแปลงของการเมืองไทยโดยรวมมากขึ้น
หนังสือทั้งสองเล่มต่างก็ตั้งคำถามกับกรอบการมองทางทฤษฎีสองแบบที่เป็นกระแสหลักในขณะนี้ว่า ยังใช้ได้กับการเมืองไทยต่อไปหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกรอบการมองในแบบ “องค์กรรัฐข้าราชการ” หรือ “องค์กรรัฐธุรกิจ-เสรีนิยม” อย่างไรก็ตาม การวิพากษ์กรอบการมองในทางทฤษฎีทั้งสองแบบนี้ควรมีการขยายความให้มากขึ้น ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่บรรยายถึง -ไม่ว่าจะเป็นการเกิดขึ้นของ เจ้าพ่อ ท้องถิ่น ความสัมพันธ์ในเชิงอุปถัมภ์ที่มีกับนักการเมืองระดับชาติ ความรุนแรงที่ขยายวงกว้างมากขึ้นในการเลือกตั้ง และการแพร่ระบาดของคอร์รัปชั่น- ชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของ “ระบอบประชาธิปไตยแบบสืบทอดอำนาจ” อันเป็นเงื่อนไขที่ทำให้รัฐไทยยังเต็มไปด้วยการเล่นพรรคเล่นพวกและระบบเครือญาติ และอำนาจรัฐยังคงถูกควบคุมโดยความสัมพันธ์ส่วนบุคคล แม้ว่ารูปแบบของการแข่งขันทางการเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปจากการต่อสู้แย่งชิงในระบบราชการ มาเป็นการต่อสู้แย่งชิงในการเลือกตั้ง แต่เนื้อแท้ของการแข่งขันยังคงเหมือนเดิม
นักวิชาการไทยมักจะวิพากษ์วิจารณ์ปรากฏการณ์นี้จากจุดยืนทางศีลธรรม แต่เราก็ควรตระหนักด้วยว่า ผลประโยชน์มหาศาลที่นักการเมืองได้รับจากระบอบประชาธิปไตยแบบสืบทอดอำนาจต่างหาก ที่ทำให้พฤติกรรมของพวกนักการเมืองเปลี่ยนแปลงไปน้อยมาก กล่าวง่าย ๆ คือ ผลประโยชน์ของพวกผู้ปกครองยังอิงอยู่กับการรักษารูปแบบประชาธิปไตยอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเอาไว้นั่นเอง
Nishizaki Yoshinori วิจารณ์
Read the full unabridged version of the article (in English) HERE